ทันตกรรมรักษารากเทียม (Implant)
การทำรากฟันเทียม
คือ การผ่าตัดที่นำโลหะผสมหรือโครงฝังลงในตำแหน่งของขากรรไกรภายใต้เหงือก หรือตำแหน่งเดิมที่ฟันแท้หลุดหายไป เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้ว ทันตแพทย์จะนำฟันปลอมที่ทำขึ้นใหม่มาให้ยึดติดกับรากเทียมที่ได้ฝังไปแล้ว
รากเทียมทำงานได้อย่างไร
รากเทียมจะทำงานร่วมกับกระดูกขากรรไกรเมื่อทั้งสองอย่างประสานกันอย่างสนิทแล้ว และจะให้เกิดการรองรับฟัน โดยฟันปลอมหรือที่ยึดฟันปลอมที่ทำงานร่วมกับรากเทียม จะไม่เลื่อนหรือลื่นออกจากจุดที่ต้องการ ซึ่งจะมีประโยชน์สูงสุดโดยเฉพาะตอนที่พูดและรับประทาน การฝังรากเทียมนี้ ช่วยในการทำฟันปลอม การครอบฟัน และที่ยึดฟันปลอมบนรากเทียมจะให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าฟันปลอมหรือการทำฟันปลอมแบบธรรมดา
รวมโปรโมชั่น รากเทียม พร้อม ของแถม มูลค่า 28,000 บาท ที่ LV Dental Clinic รัชดา 48 ใกล้ SCB สำนักงานใหญ่ ปรึกษาอาจารย์ทันตแพทย์
✨ Straumann สวิสเซอร์แลนด์ พร้อมครอบ เซรามิก ราคา 79,000 บาท
✨ Neo-Dent สวิส - บราซิล พร้อมครอบ เซรามิก ราคา 63,500 บาท
ดูแลท่านโดย อาจารย์ทันตแพทย์ โปรโมชั่นนี้มีของแถมจำนวนมาก
ฟรี! X-ray ตลอดการรักษา มูลค่า 5,000 บาท
ฟรี! ค่ายา มูลค่า 1,000 บาท
ฟรี! ค่าหมอ มูลค่า 6,000 บาท
ฟรี! ค่าผ่าตัด มูลค่า 3,000 บาท
ฟรี! ค่าปลูกกระดูก มูลค่า 15,000 บาท
ข้อดีของ รากฟันเทียม
- ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- ไม่ต้องกรอแต่งฟันข้างเคียง
- สามารถบดเคี้ยวได้ดี
- ไม่มีปัญหาเรื่องการออกเสียง เมื่อเทียบกับฟันเทียมชนิดอื่น ๆ
- ช่วยให้รู้สึกสบายเมื่อใส่ฟันเทียมแบบถอดได้ แน่นกระชับมากยิ่งขึ้น
- ป้องกันการสูญเสียฟันและกระดูกข้างเคียง
- สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ
- เสริมสร้างสุขภาพช่องปาก
- มีความคงทน
- เมื่อใช้ร่วมกับฟันเทียมแบบถอดได้ จะหมดปัญหาฟันเทียมขยับระหว่างพูดคุย หรือทานอาหาร
อายุการใช้งานและการดูแลรักษารากฟ้นเทียม
รากฟันเทียมที่ทำมาจากไททาเนียม จะมีความคงทนสูงมาก โดยอายุการใช้งาน จะขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากของผู้ป่วย รากฟันเทียมจะไม่เกิดผุ แต่สามารถเกิดโรคเหงือกอักเสบได้หากดูแลไม่ดี โดยการดูแลรักษารากฟันเทียม ก็ไม่ต่างอะไรจากรักษาฟันธรรมชาติตามปกติ คือ การแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน น้ำยาบ้วนปาก และเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
ใครที่สามารถทำรากฟันเทียมได้
- ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ หนึ่งซี่ หรือหลายๆซี่
- คนไข้ที่มีปริมาณกระดูกเพียงพอต่อการฝังรากเทียม หรือสามารถผ่าตัดเสริมกระดูกได้
- ผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรหยุดการเจริญแล้ว
- คนที่มีสุขภาพเนื้อเยื่อและเหงือกที่ดี
- คนไข้ที่ไม่มีภาวะที่ส่งผลต่อการหายของแผลในเนื้อกระดูก
- ไม่สามารถใช้ฟันเทียมถอดได้
รากฟันเทียมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร
1. ทันตกรรมรากฟันเทียม 1 ซี่
ในกรณีที่มีสูญเสียไปเพียง 1 ซี่ การทำทันตกรรมรากฟันเทียม 1 ซี่ เป็นวิธี การที่เหมาะสม คือใช้รากฟันเทียมที่มีลักษณะคล้ายสกรู 1 ตัว และฟัน 1 ซี่ แบบ ติดแน่น ทำได้กับทุกเพศทุกวัย วิธีการนี้ทันตแพทย์สามารถทำได้โดยที่ ไม่ต้อง กรอฟันซี่ข้างเคียงเพื่อใส่สะพานฟัน จึงดูแลทำความสะอาดได้ง่ายแบบ เดียวกับฟันปกติทั่วไป เมื่อทำแล้วคนไข้สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ ใช้งานได้จริง มีลักษณะฟันเหมือนฟันจริงตามธรรมชาติ
2. ทันตกรรมรากฟันเทียมหลายซี่
เมื่อคนไข้ต้องสูญเสียฟันธรรมชาติไปมากกว่า 1 ซี่ ในหลายๆ ตำแหน่ง การทำรากเทียมก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยสามารถทำรากเทียมรองรับครอบ ฟันได้ด้วยเช่นกันร่วมกับทำสะพานฟันบนครอบรากเทียม และถือเป็นทางเลือกที่ดี
เพื่อให้คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตและมีสุขภาพช่องปากและฟันดีเช่นเดิม ข้อดี ของทันตกรรมรากเทียมเช่นนี้คือ รากเทียมไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับฟันซี่อื่นๆ เหมือนการทำสะพานฟันหรือการทำฟันปลอมถอดได้ ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียงเพื่อ ทำสะพานฟันหลายซี่ และในกรณีสูญเสียฟันหลายซี่ติดกันประมาณ 3 ซี่ ทันตแพทย์ก็ยังสามารถจะใส่รากฟันเทียม 2 ตัวในซี่แรกและที่ซี่สุดท้าย โดยซี่ตรง กลางจะเป็นสะพานฟันบนครอบรากเทียม ก็สามารถทดแทนฟันจริงได้เช่นกัน
ประเภทของรากฟันเทียม
การฝังรากฟันเทียมสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การฝังรากฟันเทียมแบบทั่วไป และการฝังรากเทียมภายหลังการถอนฟันแบบทันที
ทันตแพทย์เฉพาะทางรากฟันเทียมจะประเมินสภาพกระดูก ประกอบกับการวินิจฉัยผ่านเอ็กเรย์ หรือภาพเอ็กซเรย์ 3 มิติ (CT SCAN) เพื่อให้การรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุดกับคนไข้
การฝังรากฟันเทียมแบบทั่วไป
เป็นวิธีที่นิยมทำกันโดยทั่วไป สามารถทำได้เกือบทุกกรณี การฝังรากฟันเทียมชนิดนี้เพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไปเพียงซี่เดียว หลายซี่ หรืออาจจะฝังรากฟันเทียมทั้งปาก
โดยปกติแล้วการฝังรากฟันเทียมแบบทั่วไปนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนห่างกันประมาณ 2-6 เดือน
บางกรณีที่คนไข้กระขากรรไกรมีความบางกว่าปกติ หรือมีการสูญเสียกระดูกบริเวณที่จะทำหารฝังรากฟันเทียม ทันตแพทย์เฉพาะทางอาจพิจารณาให้ปลูกกระดูกก่อนรับการฝังรากฟันเทียม เพื่อให้กระดูกบริเวณนั้นมีความหนาและแข็งแรงพอรองรับการฝังรากฟันเทียม
การฝังรากเทียมแบบทันที
One day implants คือ การฝังรากเทียมภายหลังการถอนฟันทันที ซึ่งในบางกรณีคนไข้อาจสามารถใส่ครอบ หรือสะพานฟันบนรากฟันเทียมได้เลยด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วการฝังรากฟันเทียมแบบทันทีจะเหมาะกับคนไข้ที่มีกระดูกขากรรไกรที่ดีเท่านั้น
การฝังรากฟันเทียมแบบพร้อมครอบฟันทันที
สามารถทำร่วมกับการฝังรากฟันเทียมแบบทั่วไป และ การฝังรากฟันเทียมแบบทันทีได้เป็นการใส่ครอบฟัน หรือ สะพานฟัน ทั้งแบบชั่วคราวและแบบถาวรลงบนรากฟันเทียม
ผู้ที่ไม่เหมาะสมจะทำรากฟันเทียม คือ
- ผู้ที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี เนื่องจากกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
- หญิงตั้งครรภ์ ควรรอให้คลอดบุตรก่อนทำรากฟันเทียม
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน ที่เสี่ยงต่อการเลือดไหนไม่หยุด ผู้ป่วยมะเร็ง ที่ต้องได้รับการฉายรังสีบริเวณใบหน้าและขากรรไกร ผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง ผู้ป่วยลูคิเมีย ผู้ป่วยไฮเปอร์ไทรอยด์ ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน หรือสูบบุหรี่ ซึ่งจะส่งผลต่อความสำเร็จในการทำฟันเทียม ผู้ป่วยที่มีอาการไขข้ออักเสบรุนแรง เป็นต้น
- ผู้ป่วยจิตเภท หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลรักษาสุขภาพช่องปากเองได้